ผมไม่เคยอยากปล่อยเธอไป แต่สุดท้าย เธอก็หนีพ้นรอดไปจากชีวิตผมจนได้ ทุกคนรอบข้างผมมักเตือนผมอยู่เสมอว่า สักวันหนึ่งเธอก็ต้องหายไป แต่ที่แท้จริง พวกเขาเอง ก็อยากเก็บเธอเป็นของตัวเองเช่นเดียวกับผม มันผ่านมาแล้วเกือบเดือน และผมหวังว่าผมจะได้พบเจอเธออีกมาตลอด และหวังว่าครั้งนี้ เธอจะไม่ทำให้ผมเสียใจอีก ตราบใดที่เธออยู่รอบข้างผม ผมรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถเติมชีวิตผมให้เต็มได้ แต่ความเป็นจริง เธอก็เปรียบเสมือนความรักที่ลอกลวงชีวิตผมมาตลอด
ครั้งแรกที่ผมพบเธอ ผมเพิ่งได้เริ่มทำงานครบหนึ่งเดือนที่ทำงานผม เธอก็ดูเหมือนคนทั่วๆไป ไม่แตกต่างหรือโดดเด่นไปกว่าเจ๊ที่ขายก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยผม ตั้งแต่วันแรกที่เราสบตากัน เราสองคนได้รู้จักกันทันที และเราสองคนก็สนิทสนมกันมาก จากวันนั้นมา เธอตามผมไปทุกที่ เช่น ร้านอาหาร ตลาดนัด และบางครั้งก็ที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่ผมไม่เคยปฏิเสธเธอ และผมก็ต้อนรับเธอทุกครั้งที่ได้พบกัน ผ่านไปสองถึงสามเดือน ผมค่อยๆเริ่มเข้าใจว่า ผมยิ่งเจอเธอติดๆกันเมื่อไหร่ เธอจะค่อยๆหายไปเป็นพักยาวหลังจากช่วงนั้น แต่ตอนนั้น ผมก็ไม่ค่อยได้คิดอะไร เพราะตอนนั้น เธอก็เป็นแค่เพื่อนที่ผมรู้จัก ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น
พอผมกับเธอได้รู้จักกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเธอก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตลอดเวลาที่ผมทำงาน ผมได้นึกถึงเธอตลอด เธอเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่มาก และเธอเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมก้าวหน้าไปกับทั้งชีวิตและการงาน เพราะทุกวันหลังผมกลับบ้าน ผมบอกตัวเองอยู่เสมอว่า คนอย่างเธอคงเหมาะสมกับผู้ชายที่ขยัน ช่วงนั้นของชีวิตผม ผมขาดการติดต่อจากเพื่อน พ่อแม่ และญาติๆทั้งหลาย ผมรู้สึกว่าผมหลงเธอมาก และผมอยากให้เวลากับเธอให้มากที่สุด หลังจากที่เราได้รู้จักกันครบหนึ่งปี ผมได้เลื่อนตำแหน่ง ทุกอย่างมันดีขึ้น วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ ๓๑ ผมพาเธอไปดูเสื้อผ้า เธอเลือกไปหลายชุดและหลายสี เช่น สีเขียว สีฟ้า สีแดง สีม่วง และสีเทา หลังจากที่เราได้ไปเที่ยวกัน เธอก็เริ่มหายไปเป็นพักยาวๆ และผมก็กวิตกกัลวนมาก ทั้งเดือนนั้น ผมได้เจอเธออยู่ไม่กี่ครั้ง และแต่ละครั้งที่เราได้พบเจอกัน ผมจะเป็นฝ่ายไปหาเธอ แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังรักเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม
ความสัมพันธ์ของเธอกับผม ก็เป็นตามนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ผมเจอเธอไม่กี่ครั้ง เธอก็หายไปเป็นช่วงๆ การงานผมก็ไม่ได้พัฒนาสักเท่าไหร่ จนหัวหน้าตัดสินใจย้ายผมไปอยู่ชั้งล่าง ที่ๆผมได้ทำงานครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตาม ใจผมก็ไม่ได้อยู่กับงาน ผมมัวแต่นึกถึงเธอ หวังว่าผมจะได้เจอเธอบ่อยขึ้น เพราะ ณ เวลานั้น เธอยังเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้ผมยิ้มได้อยู่คนเดียว จากที่ได้เจอกันบ่อยๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าผมได้เสียเธอไปแล้ว ผมพาเธอไปไหนที่ไรก็มีคนทำท่าจับตามองเธอ และเธอก็ใช้สายตาเธอบอกคนอื่นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธพวกเขา เป็นสายตาเดียวกับที่เธอใช้กับผม ช่วงนั้นชีวิตผมได้ล่มจม เพื่อนๆ พ่อแม่ และ ญาติๆ ได้โทรมาหาผม พยายามปลอบใจ และอธิบายให้ผมฟังว่าเธอไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ถ้าจะเอาเธอคนนี้มาเปรียบเถียบกับคนรอบข้างทุกคน เธอไร้ค่ามากที่สุด เพราะเธอไม่สามารถทำให้ผมมีความสุขอย่างแท้จริงได้ ไม่เหมือนกับคนที่รักเราด้วยจิตใจ เพราะสุดท้าย เธอก็เต็มไปด้วยความจริงจัง ไม่ได้มีความจริงใจ
สุดท้ายชายคนนี้ได้เข้าใจว่าเธอคนนี้ ไม่ได้มีค่าอย่างที่เขาคิด หรืออย่างที่คนทั่วๆไปคิด ผมหวังว่าประสบการณ์ครั้งนี้ของเขาจะตักเตือนให้ทุกคนได้จดจำไว้ว่า บางอย่างในชีวิตเรามันเต็มไปด้วยความสวยงามที่เต็มไปด้วยความหลอกลวง และคนเราควรดูดีๆ ว่าอะไรกันแน่ที่มีความหมายกับชีวิตของเรา ความรักและความอบอุ่นมันเกิดจากความรักและความอบอุ่นจากคนที่เรารักและคนที่รักเรา ความเป็นจริงแล้ว เธอคนนี้คือเงินทอง คนเราชอบมองว่าเงินเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด แต่เงินที่คนเรามีไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง เพราะบางอย่างในโลกนี้ ไม่ได้มีป้ายราคาให้เราซื้อได้ เช่น เวลา หรือความรักที่แท้จริง คนเราควรใช้เวลากับคนที่เรารักและสิ่งที่เรารักให้มากที่สุด เพราะต่างจากเงินทอง เวลามันมีขีดจำกัด